งานมหกรรมวัฒนธรรมและเวทีวิชาการอาข่า 2 “Khanqg Aqkag Pafdzan 2” หมู่บ้านดอยช้าง เป็นยี่ห้อยี่ห้อของกาแฟยี่ห้อหนึ่งที่ติดอันดับแรกๆของเมืองไทย อุปกรณ์และคนที่อยู่ท้ายรถถูกเคลือบฝุ่นตั้งแต่เลยทางแยกเข้าหมู่บ้านดอยล้าน ยังคิดอยู่เหมือนกันว่าช่วงหน้าฝนการเดินทางไปมาน่าจะลำบากมิใช่น้อย สองฟากข้างทางรายเรียงด้วยต้นกาแฟ ไบถูกฉาบด้วยฝุ่น เม็ดเกาะตามกิ่งก้านเป็นพวงช่อดำแดงสลับเขียว เขรอะด้วยฝุ่นแบบนั้นแทบไม่น่าเชื่อว่าเมื่อเปลื้องเปลือกออกแล้วกระสอบปุ๋ยหนึ่งให้ราคาตั้ง 6,000 บาท
หมู้บ้านดอยช้างมีมากว่า 800 หลังคาเรือนชนเผ่าอาข่าเป็นกลุ่มชนมากที่สุดปะมาณ 600 กว่าหลังคาเรือน นอกนั้นก็เป็นลีซูและอื่นๆ สภาพของหมู่บ้านได้เปลี่ยนไป หลังคาหญ้าคาและฝาฟากไม้ไผ่ได้ลดน้อยลง เป็นหลังคากระเบื้องประดับจานรับสัญญาณทีวี โรงตีเหล็กดูหมอง เหมือนหมดความจำเป็น ถูกใช้เมื่อต้องการรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เด็กน้อยน้ำตาคลอวาวกอบเมล็ดกาแฟบนลานตาก เหมือนเป็นการรับช่วงสร้างให้ขึ้นชื่อเป็นหนึ่ง กาแฟดอยช้าง ฝุ่นลอยตัวฟุ้งเสียงกระหึ่มก้องแต่ไกล โผล่พ้นโค้งไร่กาแฟ CRV สีดำเมื่อมเคลือบฝุ่นเป็นด่างแดง ยิ้มเผล่เลื่อนกระจกส่งเสียงทักทาย...แทบไม่น่าเชื่อ...ดอยช้างและกาแฟได้เปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่ของที่นี่ขนาดนี้
สตรีแม่บ้านหญิงสาวชาวอาข่าเตรียมตัวตั้งแต่เช้า แต่งชุดด้วยชุดประจำเผ่า ให้ต้องแสงวาววับด้วยเครื่องประดับที่เป็นโลหะ ลานตาทั่วบริเวณงาน ชายชาวอาข่าใส่หมวกประดับขนนกจับกลุ่มสนทนาสารทุกข์สุกดิบกับด้วยอาข่าต่างเมือง อาข่าจีน พม่า ลาว เชื้อชาติบรรพบุรุษสืบสายเรื่องราวเล่าขานจิตวิญญาณของเชื้อชาติไม่ได้ถูกปิดกั้นด้วยสัญชาติและเขตแดน จิตวิญญาณจึงเป็นเอกราชและมีอิสระ บรรพบุรุษเดียวกันต่างก็สื่อสารด้วยภาษาของบรรพบุรุษ เส้นสายและการเดินทางต่างกัน แต่ก็มาจากจุดเริ่มเดียวกัน เรื่องเล่าและจารีตจึงเป็นเรื่องเดียวกัน
หญิงชาวอาข่าเต้นรำกระบอกไผ่เป็นวงกลมกว้างกระทุ้งแทกนับมากกว่าร้อยกระบอกไผ่ ให้เสียงอึกทึกสลับเสียงกลองฆ้อง ฉาบ สะท้อนหุบเขา ลมแรงและแดดร้อนไม่ได้ทำให้ประเพณีวัฒนธรรมศรัทธาชนชาวอาข่าสะท้าน ยังขยับขาท่าเต้นวนกระแทกกระบอกไผ่คงเสียงอึกทึกให้คงอยู่สะท้อนก้องทั่วภูเขา สู่หุบเขาอันไกลพ้นและที่นั่นเป็นหมู่บ้านของชาวอาข่า จนกว่าชาวอาข่ารุ่นสุดท้ายถูกวัฒนธรรมอื่นกลืนกิน
ผู้นำอาข่าต่างเมืองมาร่วมเสวนาถึงวัฒนธรรมประเพณี เรื่องราวความเป็นมาของชนเผ่า พร่ำบอกลูกหลานให้คงไว้ ร่องรอยการเดินทางและเส้นทางยังไม่หมอง เรื่องราวยังคงถูกบรรทึก การไปมาหาสู่สัมพันธ์ที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยเชื้อชาติพันธุ์ยังแน่นแฟ้น เรื่องราวที่เล่าบอกเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ว่า อาข่าจีน อาข่าพม่า อาข่าลาว อาข่าไทย ในความต่างเรื่องสัญชาติ แต่วัฒนธรรมไม่ได้แตกต่าง เป็นหน้าที่ของอาบุ๊ อาริ ที่จะต้องคงตำนานวัฒนธรรม พร้อมสืบทอดเรื่องราวของบรรพบุรุษ ให้เสียงกระทุ้งกระบอกไม้ไผ่ยังคงสะท้อนก้องทั่วหุบภูเขา ถึงดินแดนอาข่าอันไกลโพ้น “ จิตวิญญาณ วัฒนธรรมเป็นเอกราช ไม่มีเขตแดน “
พี่เชียน
